คู่มือเลือกประกันรถกระบะ ซื้อประกันที่ใช่ ประหยัดได้มากกว่า!

เมื่อคุณเป็นเจ้าของรถกระบะหรือรถปิคอัพ คุณอาจกำลังสงสัยว่าควรเลือกทำประกันภัยรูปแบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ทั้งในแง่ของความคุ้มครองและความคุ้มค่าของเบี้ยประกัน บทความนี้จะพาคุณค้นหาคำตอบว่า ควรเลือกซื้อประกันรถกระบะแบบไหนที่ตอบโจทย์มากที่สุด

1. เลือกประกันรถกระบะจากการใช้งานรถเป็นหลัก

ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่าคุณใช้รถกระบะหรือรถปิคอัพเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือใช้เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ในการขนส่งสินค้า เนื่องจากการใช้งานที่แตกต่างกันนี้จะส่งผลต่อประเภทของประกันภัยที่คุณสามารถเลือกทำได้

  • หากใช้รถเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล คุณสามารถเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้
  • แต่หากใช้รถเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ ส่วนใหญ่บริษัทประกันอาจจะไม่รับทำประกันรถกระบะชั้น 1  หรือไม่รับทำประกันเลยเพราะถือเป็นการใช้งานรถผิดประเภท ดังนั้นจึงควรหาประกันภัยสำหรับรถเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ หรือต่อรองกับบริษัทประกันรถให้เคลียร์ถึงความคุ้มครองนี้

2. เลือกความคุ้มครองประกันรถกระบะ

เมื่อพิจารณาการใช้งานรถได้แล้ว คุณก็ต้องเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ซึ่งมีตั้งแต่ประกันรถกระบะชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี จนถึงประกันชั้น 2+ และชั้น 3+ ที่มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ก็ได้รับความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับชั้น 1 ประเภทของประกันรถกระบะ/ปิคอัพ และความคุ้มครองที่ได้รับ การเลือกซื้อประกันรถกระบะให้เหมาะสมนั้น คุณต้องเข้าใจความแตกต่างของประเภทประกันก่อน โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. ประกันชั้น 1

ประกันรถกระบะชั้น 1 เป็นแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม ทั้งความเสียหายต่อรถคันเอาประกันและรถคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายจากเหตุฉุกเฉิน เหมาะสำหรับรถใหม่หรือผู้ขับขี่มือใหม่

2. ประกันชั้น 2+

ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันรถกระบะชั้น 1  แต่มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีทักษะการขับขี่ดี และใช้รถในการเดินทางเป็นประจำ

3. ประกันชั้น 2

ประกันชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และเสียหายต่อรถคู่กรณีเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้รถไม่บ่อยนัก และมีสถานที่จอดรถที่ปลอดภัย

4. ประกันชั้น 3+

ประกันชั้น 3+ คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น ไม่ครอบคลุมกรณีอื่น ๆ เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี หรือผู้ขับขี่ที่ใช้รถน้อย

5. ประกันชั้น 3

ประกันชั้น 3 เป็นแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด แต่ก็มีค่าเบี้ยที่ถูกที่สุด เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี และผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ดี

3. เปรียบเทียบเบี้ยประกันรถกระบะ

เมื่อเลือกประเภทประกันภัยได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันภัยต่างๆ เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าที่สุด โดยคุณสามารถเปรียบเทียบได้ทั้งออนไลน์หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากบริษัทโดยตรง ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ เชื่อว่าคุณจะสามารถเลือกทำประกันรถกระบะหรือรถปิคอัพที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณได้แน่นอน

4. ใช้ส่วนลดประกันรถกระบะ

หากคุณกำลังมองหาวิธีซื้อประกันรถกระบะหรือรถปิคอัพที่คุ้มค่า แนะนำเทคนิคต่อไปนี้:

  1. ตรวจสอบประวัติการเคลมก่อน – ผู้ที่ไม่มีประวัติการเคลมมากกว่า 5 ปีขึ้นไปจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงถึง 50%
  2. ระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ – สามารถรับส่วนลดค่าเบี้ยได้ถึง 20% ตามประสบการณ์และอายุของผู้ขับขี่
  3. กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก – เลือกค่าเสียหายส่วนแรกสูง จะทำให้ค่าเบี้ยประกันลดลง
  4. เลือกซ่อมอู่ในเครือ – แผนการซ่อมอู่ในเครือ จะถูกกว่าการซ่อมศูนย์ ทำให้ราคาเบี้ยประกันลดลง
  5. ติดกล้องหน้ารถ – ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันเพิ่มอีก 10%

การเลือกซื้อประกันรถกระบะที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งอายุรถ ประวัติการขับขี่ และพฤติกรรมการใช้รถ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าและตรงตามความต้องการของคุณและรถกระบะหรือรถปิคอัพคู่ใจ

แชร์บทความนี้