ถึงแม้ว่ารถของคุณจะเก่า หรือมีอายุการใช้งานมานาน ถึงแม้ว่าจะเป็นรถที่มีอายุเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม การทำประกันภัยรถยนต์นั้น ยังเป็นเรื่องจำเป็นที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบของประกันภัยมากมายหลากหลายแผน ที่คุณจะสามารถเลือกแผนที่ถูกใจและให้ความคุ้มครองรถของคุณได้อย่างปลอดภัยตามที่คุณต้องการ และถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่า รถ 10 ปี ทําประกันชั้นไหนดี ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ
รถเก่าทำประกันดีมั๊ย? แล้วรถ 10 ปี ทําประกันชั้นไหนดี?
หากว่าคุณยังสงสัยว่ารถของคุณเก่าเกินไปที่จะทำประกันเพื่อรับความคุ้มครองหรือเปล่า เราบอกเลยว่าถึงเก่าแค่ไหนแต่ถ้ายังนำออกมาใช้บนท้องถนน ยังไงก็ควรมีประกันเอาไว้จะได้อุ่นใจกว่า เพียงแต่คุณต้องเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองตามความจำเป็น โดยที่จ่ายค่าเบี้ยไม่สูงเกินไป ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกได้ถึง 5 รูปแบบ
โดยแผนประกันที่คุณควรพิจารณา ก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือ ประกันรถยนต์ 3+ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่เราอยากแนะนำสำหรับรถ 10 ปีขึ้นไป เพราะให้ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถ รวมไปถึงความเสียหายสำหรับทรัพย์สินของคู่กรณี สำหรับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เป็นการชนกับรถคันอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าซ่อมให้กับรถของคู่กรณี นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลที่สาม คุณจึงไม่ต้องปวดหัวตามเคลียร์ไม่รู้จบหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา
ประกันรถยนต์ 3 กับ 3+ ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างของประกันรถยนต์ 3 กับ 3+ จะเป็นเรื่องของการให้ความคุ้มครองรถคู่กรณี กรณีที่มีการเคลมประกันแล้วทางคุณเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่งของรถคู่กรณีให้ ซึ่งถ้าหากเป็นประกันชั้น 3 คุณจะต้องจ่ายเงินในส่วนนี้เอง เนื่องจากจะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถคู่กรณีเลย
โดยในส่วนของความคุ้มครองของแผนประกันรถ 3+ นั้น ยังสามารถแบ่งได้อีกว่า คุณต้องการเลือกที่จะจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเองหรือไม่ ซึ่งประโยชน์ของการเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกด้วยตัวเอง จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเบี้ยประกันลงได้อีก โดยที่การจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเป็นฝ่ายที่ผิดเท่านั้น หากเป็นการชนกันโดยที่คุณเป็นฝ่ายถูก ก็จะไม่เสียค่าจ่ายตรงนี้
หากรถยังสภาพดี แนะนำให้เลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไปเลย “คุ้ม”
ในกรณีที่รถของคุณยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก ๆ และมั่นใจว่าสามารถใช้งานต่อได้อีกหลายปีแบบไม่มีปัญหา หากคุณเป็นห่วงเรื่องการสูญหายหรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ ขึ้นมาว่า อาจจะพรากรถสุดที่รักของคุณไป แล้วจะต้องควักเงินก้อนใหญ่ถอยคันใหม่มาใช้งานแทน ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วอาจจะไม่คุ้ม ก็สามารถขยับขึ้นมาทำประกันชั้น 2+ ได้ เพราะคุณจะได้ความคุ้มครองในส่วนของรถยนต์สูญหาย รถไฟไหม้ หรือเสียหายจากภัยธรรมชาติ เพิ่มเติมขึ้นมา พร้อมทั้งความคุ้มครองรถยนต์คู่กรณีเหมือนที่ได้รับจากแผน 3+ เช่นกัน
ทำไมรถเก่ายังต้องทำประกันภัยรถยนต์ด้วย?
อธิบายง่าย ๆ เลยก็คือเป็นเรื่องของความอุ่นใจ และการป้องกันการเกิดค่าใช้จ่ายบานปลายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทนต่าง ๆ ตามรูปแบบของแผนประกันภัยที่คุณเลือก โดยประโยชน์ของการทำประกันภัยรถยนต์สำหรับรถเก่ามีดังนี้
- ป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย กรณีรถคู่กรณีเป็นรถแพงรถหรู เพราะถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่แคร์ที่จะซ่อมรถอายุ 10 ปีของคุณ หากมีรอยเฉี่ยว รอยบุบเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง แต่ยังไงก็หลีกเลี่ยงที่จะจ่ายค่าซ่อมให้รถคู่กรณีไม่ได้ ซึ่งถ้าหากไม่อยากแบกรับภาระก้อนใหญ่เอง การซื้อประกัน ช่วยคุณได้
- ช่วยให้คุณสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทั้งของตัวคุณเองและของบุคคลภายนอก หากมีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ บริษัทประกันก็จะดูแลให้ตามเงื่อนไขหรือวงเงินความรับผิดชอบที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งถือเป็นการ “ลดภาระ” ค่าใช้จ่ายของคุณเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล
- ให้ความคุ้มครองรถของคุณกรณีสูญหาย เกิดไฟไหม้ หรือน้ำท่วม ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับค่าสินไหมทดแทน และมีเงินก้อนสำหรับใช้ในการออกรถใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ได้รับบริการเสริมเพิ่มเติมเมื่อประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น บริการรถยก 24 ชั่วโมง หรือ การมีรถขับทดแทนเมื่อต้องนำรถส่งซ่อม
รถ 10 ปี ทําประกันชั้นไหนดี? จึงควรเลือกความคุ้มครองในรูปแบบที่เน้นไปที่รับผิดชอบรถคู่กรณี มากกว่าเน้นดูแลรถของคุณเป็นหลัก เพราะว่าใช้มาอย่างคุ้มค่ามากแล้ว ถึงจะสูญหาย หรือ โดนอุทกภัย ก็อาจถือว่าเป็นฤกษ์ที่สมควรแก่เวลาในการถอยรถใหม่พอดี จะทำประกันชั้น 1 เพื่อให้ดูแลครอบคลุม ก็อาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับรถอายุขนาดนี้ โดยการเลือกแผนประกันภัยที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณจ่ายเบี้ยประกันได้ถูกลง และได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่าที่สุด