หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกปวดหัวกับการต่ออายุใบขับขี่แบบเดิมๆ ทุกครั้ง ต้องเสียเวลาเกือบทั้งวัน วันนี้เรามีข่าวดีมาฝากนะ! ระบบ “อบรมใบขับขี่ออนไลน์” ช่วยให้ขั้นตอนสะดวกรวดเร็วกว่าเดิมมาก และยังไม่มีความแตกต่างระหว่างรถใหม่หรือรถเก่าด้วย! มาดูกันเลยว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ต่อใบขับขี่ออนไลน์ทำง่าย ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!
ระบบอบรมใบขับขี่ออนไลน์ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ โดยเฉพาะหลังจากที่กรมขนส่งทางบกได้ยกเลิก “ใบขับขี่ตลอดชีพ” และเปลี่ยนมาเป็นการต่ออายุทุก 5 ปี เพื่อลดอุบัติเหตุจากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมขับรถ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการใช้งาน DLT e-Learning สุดง่ายเอามาฝากกัน
- เข้าไปที่เว็บไซต์ DLT e-Learning แล้วเลือก “ลงทะเบียน” กรอกข้อมูลที่จำเป็นให้ครบถ้วนและถูกต้อง
- เลือกการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ตามประเภทใบอนุญาตที่คุณครอบครอง
- ทำแบบทดสอบก่อนอบรมเพื่อวัดความรู้พื้นฐาน
- ดูวิดีโอการอบรมต่อใบขับขี่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ทำแบบทดสอบหลังอบรมและบันทึกผลเป็นหลักฐานต่อใบขับขี่
3 เรื่องน่ารู้อีกเกี่ยวกับการใช้งาน DLT e-Learning
- สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้เว็บไซต์เท่านั้น
- ผู้ที่ถือใบขับขี่แบบชั่วคราว (2 ปี) หรือปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ไม่สามารถอบรมทำใบขับขี่ผ่าน DLT e-Learning ได้
- หลังอบรมผ่าน DLT e-Learning แล้ว สามารถ Walk in ไปต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย ไม่ต้องจองคิวออนไลน์
อบรมทำใบขับขี่ ยังต้องไปขนส่งหรือเปล่า?
เข้าใจผิดได้ว่าเมื่ออบรมใบขับขี่ออนไลน์เสร็จแล้ว ก็ถือว่าต่อใบขับขี่เป็นอันเสร็จสิ้น แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น คุณยังต้องเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้าน พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน, ใบรับรองแพทย์, และหลักฐานการอบรมด้วยระบบ DLT e-Learning
รถใหม่หรือรถเก่า อบรมใบขับขี่ออนไลน์ต่างกันหรือไม่?
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ระหว่างรถใหม่และรถเก่าจะมีความแตกต่างกันหรือไม่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีความแตกต่างกันเลย เพราะการต่ออายุใบขับขี่นั้นไม่ได้สนใจว่าคุณจะขับรถอะไร สิ่งที่สำคัญคือ ความรู้ด้านกฎจราจร สัญญาณจราจร และความพร้อมของร่างกาย ทักษะการขับรถเท่านั้น
ใช้เวลาอบรมออนไลน์นานแค่ไหน?
การอบรมออนไลน์มีระยะเวลาไม่เท่ากันตามแต่ประเภทของรถ หากอบรมไม่ครบชั่วโมงก็จะมีผลต่อการทำใบขับขี่ โดยรถแต่ละประเภทใช้เวลาในการอบรม ดังนี้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ต้องอบรม 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิดที่ 1-4, ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1-4) ต้องอบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ) ต้องอบรม 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ต้องอบรม 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ต้องอบรม 2 ชั่วโมง
โปรดจำไว้ว่า ผลการอบรมการต่ออายุใบอนุญาตขับรถจะมีอายุ 90 วันนับจากวันที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
การต่ออายุใบขับขี่เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนที่ขับรถต้องทำ เพราะนอกจากการทำตามกฎหมายแล้ว ใบขับขี่ยังช่วยยืนยันตัวตนผู้ขับขี่เมื่อเกิดเรื่องอันตรายหรืออุบัติเหตุ รวมไปถึงลดปัญหาในขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์อีกด้วย