น้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนเลือดของเครื่องยนต์ที่มีบทบาทสำคัญเหมือนเดียวกับเลือดที่ไหลในร่างกายของเรา มันทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์ ลดความร้อน ป้องกันการสึกหรอ และช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การรักษาระดับและคุณภาพของน้ำมันเครื่องเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และรักษาประสิทธิภาพของรถได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นขั้นตอนด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณรักษาน้ำมันเครื่องของคุณให้อยู่ในสภาพดี
1. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ
ควรตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้งหรือก่อนออกเดินทางไกล วิธีตรวจสอบโดยดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาเช็ดให้สะอาดแล้วจุ่มกลับลงในถังน้ำมันเครื่อง หลังจากนั้นเช็คระดับน้ำมันว่าอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX หรือไม่
2. เติมน้ำมันเครื่องเมื่อจำเป็น
เมื่อพบว่าระดับน้ำมันต่ำกว่าขีด MIN คุณควรเติมน้ำมันเครื่องโดยใช้ชนิดและเบอร์ที่ระบุในคู่มือรถ และควรเติมน้ำมันอย่างช้าๆ โดยตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงระดับที่เหมาะสม
3. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด
ระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันเครื่อง การใช้งาน และคำแนะนำของผู้ผลิต โดยทั่วไปควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน
4. ใช้กรองน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน
กรองน้ำมันเครื่องมีหน้าที่กรองสิ่งสกปรก ตะกอน และเศษโลหะออกจากน้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
5. เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม
น้ำมันเครื่องมีหลายชนิด เช่น สังเคราะห์ กึ่งสังเคราะห์ และธรรมดา ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล vs เบนซิน แบบไหนถนอมน้ำมันเครื่อง
เครื่องยนต์ดีเซล มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงดีกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ประหยัดน้ำมันมากกว่า แต่มีแรงบิดสูงที่รอบต่ำ เหมาะกับการบรรทุกของหนัก ขับขี่บนถนนขรุขระ
เครื่องยนต์เบนซิน มีกำลังและอัตราเร่งที่ดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซล แต่ประหยัดน้ำมันน้อยกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมือง การเร่งความเร็ว
โดยเครื่องยนต์ดีเซลจะถนอมน้ำมันเครื่องมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่น ชนิดน้ำมันเครื่อง การดูแลเครื่องยนต์ การใช้งาน โดยมีเหตุผลที่เครื่องยนต์ดีเซลจะถนอมน้ำมันเครื่องมากกว่าคือ
- ความร้อน: เครื่องยนต์ดีเซลทำงานที่อุณหภูมิต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ส่งผลให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพช้าลง
- การเผาไหม้: เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างสมบูรณ์กว่าเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้มีเขม่าและตะกอนสะสมในน้ำมันเครื่องน้อยกว่า
- รอบเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลโดยทั่วไปทำงานที่รอบต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ส่งผลให้ชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์สึกหรอน้อยลง รวมไปถึงน้ำมันเครื่องด้วย
ปัญหาน้ำมันเครื่องแห้งเร็วแก้ยังไง?
น้ำมันเครื่องแห้งเร็ว เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น
- เครื่องยนต์มีรอยรั่ว
- ซีลต่างๆ ในเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ
- ใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์
- ขับขี่รถด้วยความเร็วสูงเป็นประจำ
หากพบปัญหาน้ำมันเครื่องแห้งเร็ว ควรนำรถเข้าตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์กับช่างผู้ชำนาญโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์
ผลกระทบของน้ำมันเครื่องแห้งเร็ว
น้ำมันเครื่องแห้งเร็ว ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์หลายประการ เช่น
- เครื่องยนต์ทำงานร้อนจัด
- ชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์สึกหรอเร็ว
- เครื่องยนต์มีเสียงดัง
- เครื่องยนต์สูญเสียกำลัง
- เครื่องยนต์หยุดทำงาน
ดูแลเครื่องยนต์ด้วยประกันอะไหล่รถยนต์
ประกันอะไหล่รถยนต์
เป็นทางเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์ กรณีเกิดความเสียหายจากการใช้งาน ช่วยให้คุณอุ่นใจและไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
ข้อควรระวัง
- ควรเลือกประกันอะไหล่รถยนต์ที่เหมาะสมกับรุ่นรถและความต้องการของคุณ
- ศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์อย่างละเอียด
- เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ
การดูแลรักษาน้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะมันช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ดังนั้นควรใส่ใจในการดูแลรักษาน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถของคุณใช้งานได้ยาวนาน ปลอดภัย และประหยัด