ประกันรถ Tesla มีกี่แบบ? คุ้มครองอะไรบ้าง เลือกยังไงให้ตอบโจทย์

เรื่องราวสำหรับการประกันภัยมีเรื่องให้เรียนรู้มากมายไม่จบสิ้น เพราะนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับรถยนต์มีเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ในปัจจุบัน Tesla ครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก โดยมียอดขายสูงถึง 1.31 ล้านคัน ด้วยความโดดเด่นทั้งในเรื่องนวัตกรรมและสมรรถนะการขับขี่ ทำให้หลายคนสนใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla กันมากขึ้น แต่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและประกัน Tesla อยู่ ซึ่งเรามีคำตอบเพื่อช่วยในการตัดสินใจทำประกันรถ Tesla และการเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งานของคุณ

ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า ถึงแพงกว่ารถทั่วไป?

จากการตรวจสอบ ค้นหา และดูข้อมูลในทุกแห่ง ความจริงที่ปรากฏคือ ค่าประกันรถไฟฟ้า มีราคาที่สูงกว่าการทำประกันภัยรถยนต์ทั่วไป โดยมีอัตราเบี้ยประกันที่สูงกว่าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเพราะอะไร คำตอบมีดังต่อไปนี้

1. รถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในช่วง “พัฒนา”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังอยู่ในช่วงเวลาตั้งไข่ ยังมีหลายปัจจัยที่ยังถือว่าเป็นการลองผิดลองถูกในการใช้งาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทุกอย่างยังคงต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ นั่นเอง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง จึงสูงกว่าปกติ เพราะไม่รู้เลยว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด

2. “อะไหล่” ไม่เพียงพอ

แม้ว่าความนิยมในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าจะเปรียบเทียบเรื่องของการผลิตอะไหล่สำหรับการใช้งานเทียบต่อรถยนต์พลังงานน้ำมัน ถือว่ายอดการใช้งานยังต่ำมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตอะไหล่แต่ละชิ้นสูงมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ค่าประกันของรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงกว่าปกติอีกด้วย

3. ช่างผู้เชี่ยวชาญยังน้อยอยู่

ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ย่อมมีช่างที่เข้าใจระบบการจัดการและการซ่อมบำรุงที่น้อย ดังนั้น การทำประกันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจึงมีเพียงแค่การประกันแบบส่งศูนย์ซ่อมเท่านั้น ไม่มีการทำประกันในรูปแบบส่งอู่ซ่อมทั่วไป ซึ่งในกรณีปกติการทำประกันภัยรถยนต์พลังงานน้ำมันระหว่างซ่อมอู่ทั่วไปกับซ่อมศูนย์นั้นมีเบี้ยประกันที่ต่างกันอยู่แล้ว

เบี้ยประกัน Tesla แพงจริงหรือไม่?

ด้วยความเฉพาะตัวของรถยนต์ Tesla ที่ต้องใช้อะไหล่และชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศหลายชิ้น รวมถึงการซ่อมบำรุงที่ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้ประกัน Tesla มีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตมีการผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนที่ครอบคลุมมากขึ้น ก็อาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและเบี้ยประกันเทสล่าปรับตัวลดลงได้

ประกัน Tesla คุ้มครองอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความคุ้มครองหลายประเภท แต่เมื่อเป็นประกัน Tesla ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประกัน Tesla model 3 หรือ Model Y จะมีแต่ให้ทำประกันชั้น 1 หรือ 2+ โดยประกันรถไฟฟ้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน ดังนี้

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกัน Tesla ชั้น 1 ราคาสูงที่สุด แต่ก็คุ้มครองมากที่สุดเช่นกัน โดยจะคุ้มครอง ดังนี้

  • คุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
  • คุ้มครองความเสียหายของรถ ทั้งชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี)
  • คุ้มครองบุคคลภายนอกทั้งทรัพย์สิน การบาดเจ็บ และเสียชีวิต
  • คุ้มครองกระจกรถ
  • คุ้มครองรถหาย, ไฟไหม้, น้ำท่วม และภัยธรรมชาติ
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวผู้ขับขี่

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันเทสล่าชั้น 2 จะคุ้มครองรองลงมาจากชั้น 1 โดยให้ความคุ้มครอง ดังนี้

  • คุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (เฉพาะกรณีรถหาย/ถูกโจรกรรม และไฟไหม้)
  • คุ้มครองบุคคลภายนอกทั้งความเสียหายทรัพย์สิน การบาดเจ็บ และเสียชีวิต
  • คุ้มครองรถหาย และไฟไหม้
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และการประกันตัวผู้ขับขี่

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันรถ Tesla ชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินคู่กรณี ไม่คุ้มครองรถของเรา แบบนี้แม้เป็นประกันเทสล่าที่ถูกที่สุด แต่ก็เสี่ยงที่แบตเตอรี่ราคาหลักแสนจะไม่ได้ความคุ้มครองจนต้องจ่ายด้วยตัวเองนั่นเอง โดยประกัน Tesla คุ้มครองดังนี้

  • คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สิน การบาดเจ็บ และเสียชีวิตของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และการประกันตัวผู้ขับขี่

ประกันรถ Tesla ที่ไหนดี?

การเลือกประกัน Tesla เป็นสิ่งที่ต้องหาข้อมูลและเปรียบเทียบอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า ประกันรถที่ตอบโจทย์จะต้องคุ้มครองความเสี่ยงของเราได้ เช่น

  • คนที่ขับรถเป็นประจำ หรือมือใหม่หัดขับ รวมถึงคนที่จอดรถในที่สาธารณะบ่อย หรือจอดรถในบ้านไม่ได้ แบบนี้ประกันชั้น 1 จะตอบโจทย์
  • หากคุณไม่ค่อยได้ขับ การทำประกันชั้น 2-3 ก็เพียงพอ

นอกจากนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ ติดต่อง่าย ปรับแผนประกันได้ เพื่อเลือกให้ตอบโจทย์ตัวเรามากที่สุด แบบนี้ก้สามารถวางใจได้และใช้งานรถ Tesla ได้อย่างหมดห่วง

การเลือกประกัน Tesla ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณฃเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์ ประกันเทสล่าแต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรพิจารณาและอ่านเงื่อนให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง

แชร์บทความนี้