ปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพสมัยนี้ พัฒนากลโกงหลอกลวงมาหลอกเรามากมาย แน่นอนว่าคงไม่พ้นการใช้ใบสั่งจราจรมาเป็นอีกหนึ่งวิธีในการหลอกลวงประชาชน โดยมักจะมีการปลอมแปลงใบสั่งจราจรออกมาเพื่อเรียกเก็บเงินจากผู้ขับขี่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้รถบางรายเกิดความสับสนและหลงเชื่อได้ง่าย วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับมาฝากในการตรวจสอบว่าใบสั่งจริง หรือใบสั่งปลอม เพื่อป้องกันไม่ให้โดนมิจฉาชีพหลอกลวง
ใบสั่งจราจรมีกี่แบบ?
ในปัจจุบันใบสั่งจราจรมีหลายรูปแบบ ได้แก่
- ใบสั่งจราจรแบบเขียนด้วยลายมือ
- ใบสั่งจราจรส่งทางไปรษณีย์ (ตรวจจับความเร็วจากกล้อง)
- ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า “ใบสั่งออนไลน์” (e-Ticket)
ใบสั่งจราจรปลอมจะไม่มีรูปรถ จริงหรือไม่?
ใบสั่งปลอม ดูยังไง? หลายคนอาจได้รับข้อความแจ้งให้จ่ายค่าปรับจากตำรวจ ซึ่งอ้างว่าไม่มีภาพประกอบการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วมันเป็นใบสั่งความเร็วปลอม! เป็นเพียงกลวิธีของแก๊งมิจฉาชีพที่พยายามหลอกลวงเงินจากคุณ อย่าหลงเชื่อและอย่าสแกนชำระเงินด้วยเด็ดขาด! เพราะจะถูกดูดเงินจากบัญชีของคุณทันที
ถ้าคุณได้รับใบสั่งจริง ๆ โดยไม่มีภาพประกอบ นั่นหมายความว่า อาจเป็นการแจ้งเตือนครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้รับใบสั่งแรกที่มีภาพประกอบ แล้วคุณยังไม่ได้จ่ายค่าปรับ แต่หากไม่แน่ใจให้ติดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนดำเนินการใด ๆ
ใบสั่งจริง ใบสั่งปลอม ตรวจสอบยังไง?
วิธีเช็คใบสั่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket)
ใบสั่งจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นของจริงจะมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
- มีเลขที่ใบสั่ง เลขทะเบียนรถ และประเภทของรถยนต์คันที่กระทำผิด
- มีข้อหาในการกระทำผิดและค่าปรับตามอัตราที่กำหนด – มีข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น ชื่อเจ้าพนักงาน สถานที่ วัน เวลา และระยะเวลาจ่ายค่าปรับ
- มี QR Code สำหรับจ่ายค่าปรับผ่าน Mobile Banking และ QR Code สำหรับตรวจสอบความถูกต้อง
- บัญชีธนาคารปลายทางที่รับจ่ายค่าปรับจะต้องเป็น “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ – ค่าปรับจราจร” เท่านั้น
วิธีเช็คใบสั่งออนไลน์
เมื่อได้รับใบสั่งแล้ว อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นใบสั่งความเร็วปลอมแล้วไม่จ่ายใบสั่ง เพราะหากเป็นใบสั่งจริงแล้วไม่จ่ายคุณจะต้องรับโทษทางกฎหมาย ดังนั้นเมื่อได้รับใบสั่งให้ตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งจราจรที่ได้รับทุกครั้ง สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ http://ptm.police.go.th โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ http://ptm.police.go.th และลงทะเบียนด้วยหมายเลขบัตรประชาชน, เลขใบขับขี่, หรือหมายเลขทะเบียนรถ
- เข้าสู่ระบบด้วยเลขที่ลงทะเบียนและรหัสผ่านที่ตั้งไว้
- ค้นหาใบสั่งจราจรด้วยการระบุวันที่กระทำผิดหรือเลขทะเบียนรถ
- ตรวจสอบรายละเอียดใบสั่งจราจรที่ปรากฏ หากพบว่ามีค้างชำระ ก็สามารถจ่ายค่าปรับได้ทันที
จ่ายค่าปรับจราจร มีช่องทางไหนบ้าง?
ผู้ที่ได้รับใบสั่งจราจรสามารถจ่ายค่าปรับได้หลากหลายช่องทาง เช่น
- ผ่าน Application Krungthai Next
- ผ่าน Application เป๋าตัง
- สแกน QR Code ด้านล่างของใบสั่งผ่าน Mobile Banking
- จ่ายค่าปรับที่ตู้ ATM, ADM, ธนาคารสาขา, ตู้บุญเติม, ที่ทำการไปรษณีย์ไทย
- จ่ายค่าปรับที่จุดรับชำระเงิน CenPay ตามห้างและร้านค้าชั้นนำ
การปฏิบัติตามกฎจราจรนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพอีกด้วย หากพบเจอใบสั่งจราจรปลอม ควรเช็คก่อนจ่ายค่าปรับ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงและนำมิจฉาชีพเหล่านี้มารับผิดชอบ