สรุป ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

รถยนต์ไฟฟ้า กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และราคารถที่เริ่มถูกลง หลายคนจึงเริ่มมองหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อดีและข้อเสีย ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซื้อรถไฟฟ้าดีไหม? ก่อนตอบคำถามนี้ต้องรู้ข้อมูลด้านล่างนี้ก่อนเลย

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า

  1. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสียหรือก๊าซเรือนกระจก ซึ่งช่วยลดมลพิษทางอากาศและมลพิษทางเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม
  2. ประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้าในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยทั่วไปมีราคาถูกกว่าการเติมน้ำมัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  3. ดูแลรักษาง่าย รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายใน ทำให้การดูแลรักษาง่ายกว่า และต้องเข้ารับการซ่อมแซมน้อยกว่า
  4. เสียงเงียบ ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ชัดเจนอีกอย่างคือ มอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าทำงานเงียบกว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์ทั่วไป ซึ่งช่วยให้การขับขี่มีความสงบและสบายมากขึ้น
  5. แรงบิดสูง รถยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดสูง ทำให้อัตราเร่งดีกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
  6. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย เช่น การลดภาษีสรรพสามิต และการให้เงินอุดหนุน ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า

  1. ราคาสูง ราคารถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังสูงกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายใน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
  2. ระยะทางการขับขี่ ระยะทางการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าต่อการชาร์จหนึ่งครั้งยังมีข้อจำกัด ผู้ใช้งานอาจต้องชาร์จบ่อยครั้งในระหว่างการเดินทาง
  3. ใช้เวลาชาร์จนาน การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมัน ซึ่งอาจเป็นความไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้งาน
  4. สถานีชาร์จมีจำนวนจำกัด สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีจำนวนไม่มากนัก ทำให้ผู้ใช้งานอาจมีข้อจำกัดในการเดินทาง
  5. แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานจำกัด และต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในระยะยาว

นอกจากข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว การจะตัดสินใจซื้อรถสักคันต้องมีสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม ดังนี้

อะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า?

1. ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า

  • BEV (Battery Electric Vehicle): เก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ชาร์จไฟได้ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
  • PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ชาร์จไฟได้ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก แต่สามารถใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในได้เมื่อแบตเตอรี่หมด
  • HEV (Hybrid Electric Vehicle): มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ชาร์จไฟไม่ได้ เครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน

2. ระยะทางการขับขี่

ระยะทางการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่ เทคโนโลยีที่ใช้ และสภาพการขับขี่ ผู้บริโภคควรเลือกซื้อรถที่มีระยะทางการขับขี่เพียงพอต่อการใช้งาน

3. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าในไทย

โดยทั่วไปจะถูกกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายใน แต่ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีราคาสูงมาก

4. การรับประกัน

ผู้บริโภคควรเลือกซื้อรถจากแบรนด์ที่มีการรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ยาวนาน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังเป็นเรื่องที่ใหม่มากๆ ถึงมีการรับประกันที่ยาวนาน แต่ในเรื่องของการซ่อมแซมอาจต้องใช้เวลาในการสั่งอะไหล่

5. มูลค่าการขายต่อ

มูลค่าการขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้ายังมีแนวโน้มที่สูง ผู้บริโภคสามารถนำรถเก่าไปขายต่อได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับราคารถใหม่

6. ประกันรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับคำถาม ซื้อประกันรถไฟฟ้าดีไหม? แน่นอนว่าการมีประกันมาคุ้มครองรถเป็นทางเลือกที่ดี แต่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีราคาสูงกว่าราคาประกันรถยนต์ทั่วไป เพราะประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ดี ต้องคุ้มครองแบตเตอรี่รถด้วย เพราะแบตรถถือว่าเป็นหัวใรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ และยังต้องคุ้มครองการชน ไฟไหม้ รถหาย ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ครบ

ซื้อรถไฟฟ้าดีไหม? การตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้า พิจารณาความเหมาะสมกับการใช้งาน  ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของตัวเองก่อนตัดสินใจ

แชร์บทความนี้