ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน? ขั้นตอนและเอกสารที่ใช้

ใบขับขี่เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องมีเมื่อขับรถ แต่หลายคนอาจลืมหรือไม่ทราบว่าใบขับขี่ของตัวเองนั้นมีวันหมดอายุ และต้องดำเนินการต่อใบขับขี่หมดอายุภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะมีความผิดทางกฎหมาย และอาจต้องเสียเวลาไปสอบใบขับขี่ใหม่ อาจมีความเสี่ยงถูกเรียกปรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน?

โดยปกติแล้ว ใบขับขี่สามารถต่ออายุได้ล่วงหน้าสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน แต่หากเผลอปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุลง ก็ยังสามารถต่อได้ โดยจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่หมดอายุ ดังนี้

  • ต่อล่วงหน้าได้ 6 เดือน หากกลัวลืม สมารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าไว้ก่อน ได้ถึง 6 เดือนเลย
  • ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ใบขับขี่หมดอายุ 1 เดือน สามารถต่อใบขับขี่ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ
  • ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องผ่านการทดสอบข้อเขียน E-exam 50 ข้อ และต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 45 ข้อ (90%)
  • ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องผ่านการอบรม, ทดสอบข้อเขียน และทดสอบขับรถ เหมือนกับการทำใบขับขี่ใหม่

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถต่อใบขับขี่ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าใบขับขี่หมดอายุ ปรับเท่าไหร่? คำตอบคือ การต่อใบขับขี่ช้าจะไม่มีค่าปรับ แต่หากคุณนำรถออกไปใช้ตามปกติ จะถือว่าคุณทำผิดกฎหมายจราจร ทีนี้ใบขับขี่หมดอายุ โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

เมื่อรู้แล้วว่าใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน? ทีนี้ก็มาดูขั้นตอนและเอกสารที่ใช้ ด้านล่างนี้เลย

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่มีอะไรบ้าง?

ในการต่อใบขับขี่หมดอายุ ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมเอกสารดังนี้

  • ใบขับขี่เดิม
  • บัตรประชาชนฉบับจริง
  • ใบรับรองแพทย์ตามรูปแบบที่แพทยสภากำหนด

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่

  1. ตรวจสอบเอกสารและออกคำขอ ณ สำนักงานขนส่ง
  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (การมองเห็นสี, สายตาทางลึก, สายตาทางกว้าง, ปฏิกิริยาเท้า)
  3. อบรม 1 ชั่วโมง (เฉพาะกรณีใบขับขี่ 5 ปี)
  4. ชำระค่าธรรมเนียม, ถ่ายรูป, รับใบขับขี่

ใบขับขี่หมดอายุ ต่อออนไลน์ยังไง?

  1. เข้าเว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ เข้าสู่ระบบด้วยบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิด
  2. เลือก “อบรมต่อใบขับขี่”
  3. เลือกประเภทใบขับขี่
  4. ดูวิดีโออบรมให้ครบตามกำหนด
  5. สอบข้อเขียนออนไลน์
  6. พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน
  7. จองคิวที่สำนักงานขนส่ง
  8. นำเอกสารที่ครบถ้วนไปที่สำนักงานขนส่งตามวันเวลาที่จองไว้

ใบขับขี่หมดอายุแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรับผิดชอบหรือไม่?

แม้ใบขับขี่หมดอายุ แต่ประกันรถยนต์ก็ยังให้ความคุ้มครองอยู่ คุณจึงสามารถวางใจในเรื่องความคุ้มครองหากใช้รถแล้วเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรละเลยการต่อใบขับขี่ เพราะการใช้รถโดยไม่มีใบขับขี่ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย

ดังนั้น หากใบขับขี่ของคุณใกล้หมดอายุหรือใบขับขี่หมดอายุ อย่าลืมรีบดำเนินการต่อใบขับขี่ภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับปัญหาและค่าปรับ เมื่อขับรถในช่วงที่ใบขับขี่หมดอายุ

แชร์บทความนี้